ทำรากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน? จริงหรืออยู่ได้ตลอดชีวิต?
ทำรากฟันเทียมถือเป็นนวัตกรรมทันตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูฟันที่สูญเสียไปให้กลับมามีความสวยงามและใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ ซึ่งหลายคนที่สนใจมักมีคำถามว่า “รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน?” หรือแม้แต่สงสัยว่า “จริงไหมที่อยู่ได้ตลอดชีวิต?” ในบทความต่อไปนี้จะมาตอบข้อสงสัยนี้ให้ชัดเจน
รากฟันเทียมคืออะไร?
รากฟันเทียม คือแท่งโลหะไทเทเนียมที่ฝังลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้แทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป จากนั้นจะใส่ฟันปลอม (ครอบฟัน) ที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคลติดไว้ด้านบน เพื่อให้สามารถใช้งานในการเคี้ยว พูด และยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทำรากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยเฉลี่ยแล้วการทำรากฟันเทียมสามารถอยู่ได้นานถึง 15–25 ปี หรือมากกว่านั้น หากดูแลอย่างถูกต้อง บางรายที่มีสุขภาพช่องปากดีและมีวินัยในการดูแลอาจสามารถใช้ได้นานตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความคงทนของรากฟันเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- สุขภาพช่องปากโดยรวม
ผู้ที่แปรงฟันเป็นประจำ ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ จะสามารถยืดอายุการใช้งานของรากฟันเทียมได้มาก - พฤติกรรมการใช้งาน
การกัดของแข็ง เคี้ยวน้ำแข็ง กัดเล็บ หรือใช้ฟันเปิดสิ่งของ อาจทำให้ครอบฟันเสียหายเร็วขึ้น แม้รากฟันด้านล่างจะยังแข็งแรงอยู่ก็ตาม - สุขภาพร่างกายโดยรวม
โรคบางชนิด เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคเหงือกเรื้อรัง อาจส่งผลให้กระดูกขากรรไกรเสื่อมและส่งผลต่อรากฟันเทียมได้ - คุณภาพของวัสดุและเทคนิคการรักษา
รากฟันเทียมที่ทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้วัสดุคุณภาพสูง ย่อมมีแนวโน้มอยู่ได้นานกว่าการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน
แล้วอยู่ได้ตลอดชีวิตจริงไหม?
คำตอบคือ “เป็นไปได้” แต่ไม่ใช่ทุกกรณี
หากคุณดูแลสุขภาพช่องปากดี ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อกระดูก หรือไม่เกิดอุบัติเหตุกระทบกับตำแหน่งฟัน รากฟันเทียมก็สามารถอยู่ได้นานหลายสิบปีจนถึงตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ครอบฟันด้านบน (ฟันปลอม) อาจต้องมีการเปลี่ยนหรือซ่อมในช่วงเวลา 10–15 ปีขึ้นไป เนื่องจากการใช้งานและการสึกกร่อนตามเวลา
สรุป
การทำรากฟันเทียมไม่ใช่แค่การทดแทนฟันที่หายไป แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวในสุขภาพฟันและคุณภาพชีวิต หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม รากฟันเทียมสามารถอยู่กับคุณได้นานหลายสิบปี หรือแม้กระทั่งตลอดชีวิตจริง ๆ ดังนั้น การเลือกทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใส่ใจสุขภาพช่องปากของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญของผลลัพธ์ที่ยั่งยืน