“โรคที่ไม่สามารถจัดฟันใสได้ ข้อดีของการจัดฟันใส เหตุผลทำไมต้องเลือกจัดฟันใส และจัดฟันราคา”
เมื่อกำลังคิดอยากที่จะจัดฟัน หลายๆคนอาจจะศึกษาหาข้อมูล เปรียบเทียบประเภทของการจัดฟัน ดูงบประมาณของตัวเอง ความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ และการจัดฟันใสที่เป็นอีกตัวเลือกที่นิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งบทความนี้จะเล่าถึงความจุดเริ่มต้นของการจัดฟันใส และเหตุผลทำไมต้องเลือกจัดฟันใส และโรคที่ไม่สามารถจัดฟันใสได้มีอะไรบ้าง
ใครเป็นคนคิดค้นจัดฟันใสคนแรก :
จุดเริ่มต้นของจัดฟันใส เมื่อปี 1999 มีการเริ่มพัฒนาจัดฟันใสนำเสนอโดย Align Technology ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต Invisalign โดยมีแนวคิดจากหลังจัดฟันเสร็จ ทุกคนจะต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน จึงได้ไอเดียขึ้นมาว่าทำไมต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบเหล็กเป็นระยเวลาหลายๆปี ซึ่งเครื่องมือที่ใช้คงสภาพฟัน ที่เป็นรีเทนเนอร์ใส ก็มีคุณสมบัติสามารถเคลื่อนฟันได้เช่นกัน ซึ่งคนคิดค้นจัดฟันใสไม่ได้ระบุว่าใครเป็นคนคิดคนแรก แต่เป็นการเริ่มจากการพัฒนาจากจัดฟันแบบดั้งเดิม ร่วมกันหลายๆบุคคลและองค์กรในวงการทันตกรรม
โรคที่ไม่สามารถจัดฟันใสได้มีอะไรบ้าง ?
มีบางสภาวะหรือโรคทางสุขภาพช่องปากที่อาจทำให้ไม่เหมาะสมหรือไม่เหมาะกับการใช้งานการจัดฟันใส ดังนี้:
โรคเหงือกอักเสบรุนแรง : โรคเหงือกอักเสบรุนแรงสามารถทำให้เสียหายถาวรแก่โครงสร้างของเหงือกและกระดูกฟัน ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานการจัดฟันใส
ข้อบกพร่องทางสรีระ : บางครั้งการมีข้อบกพร่องทางสรีระที่มากเกินไปอาจทำให้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานการจัดฟันใส โดยเฉพาะกรณีที่มีข้อบกพร่องซับซ้อนอาจต้องใช้การรักษาที่มีความแข็งแรงมากกว่า
การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่รุนแรง : การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่รุนแรงในช่องปากอาจทำให้โครงสร้างของฟันหรือเหงือกเสียหาย ซึ่งการจัดฟันใสอาจไม่เหมาะสมในกรณีนี้
โรคต่อมน้ำลายอักเสบ : โรคต่อมน้ำลายเป็นพิษอาจทำให้มีการลดลงของน้ำลายในช่องปาก ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการสร้างเส้นใยเหงือกและการบำรุงรักษาช่องปาก การจัดฟันใสอาจไม่เหมาะสมในผู้ที่มีโรคนี้
โรคบาดทะยัก : โรคบาดทะยักหรือการที่ผู้ป่วยบดฟันอย่างผิดปกติอาจทำให้ฟันเสียหายหรือบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานการจัดฟันใสในบางกรณี
การพิจารณาความเหมาะสมของการใช้งานการจัดฟันใสควรพิจารณาโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันและสุขภาพช่องปาก และคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรมเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานะสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล
ข้อดีของการจัดฟันใส
1. ความสวยงาม:
- แทบมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน
- ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
2. ดูแลรักษาง่าย:
- ถอดเข้าออกได้
- แปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากได้สะดวก
- ลดความเสี่ยงต่อฟันผุและปัญหาสุขภาพช่องปาก
3. สะดวกสบาย:
- ทานอาหารได้หลากหลาย
- ไม่ต้องกังวลเรื่องเศษอาหารติดเครื่องมือ
- ปรับแต่งการใส่เครื่องมือได้ตามความเหมาะสม
4. รวดเร็ว:
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเร็ว
- ใช้เวลาจัดฟันสั้นกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม
5. เหมาะกับทุกวัย:
- วัยรุ่น ผู้ใหญ่ วัยทำงาน ต่างก็จัดฟันใสได้
6. ปลอดภัย:
- ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง
- ผ่านการรับรองความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การจัดฟันใสอาจไม่เหมาะกับทุกคน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ โรคปริทันต์
- ผู้ที่ต้องการจัดฟันแบบถาวร การจัดฟันใส ต้องใส่รีเทนเนอร์หลังการรักษาเพื่อคงสภาพฟัน
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันใส ค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจจัดฟันใส ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม เพื่อประเมินความเหมาะสม วางแผนการรักษา และเลือกวิธีจัดฟันที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น
- วัย
- อาชีพ
- ไลฟ์สไตล์
การจัดฟันใส เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟันอย่างมั่นใจ ไร้กังวล คลินิกของเรามีการจัดฟันใสด้วยเทคนิค NEMOSMILE
จัดฟันใสเทคนิค NEMO SMILE ดีอย่างไร ?
- เห็นผลลัพธ์ก่อนจัดฟันจริง ลูกค้าจะได้เห็นแผนการรักษาตั้งแต่ต้น จนฟันเรียงสวย
- วางแผนการรักษาด้วยคอมพิวเตอร์ 3 มิติ
- มีความละเอียด แม่นยำ ตรงตามแผนการรักษา
- ใช้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น Dental Mornitoring ทำให้ลูกค้าได้เห็นการเคลื่อนของฟันตัวเองอยู่ตลอดเวลา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันใส
จัดฟันราคา จัดฟันใสราคา ?
จัดฟันราคา
ประเภทของการจัดฟันใส | ราคาปกติ | ราคาโปรโมชั่น |
---|---|---|
จัดฟันใส Smart Clear 7 | 69,000 B. | 35,000 B. |
จัดฟันใส Diamond Smile | 149,000 B. | |
จัดฟันใส Invisalign | 180,000 B. | |
จัดฟันใส Biolux Active | 300,000 B. | 199,000 B. |