
ดัดฟันแบบไหนดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์วัยทำงาน ไม่ต้องพบหมอบ่อย
ดัดฟันแบบไหนดี ที่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนวัยทำงานซึ่งมีเวลาจำกัด ไม่สะดวกเข้าออกคลินิกบ่อย ๆ คำตอบอยู่ที่ จัดฟันใสและจัดฟันด้านใน การจัดฟันทั้งสองแบบนี้กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยทำงาน เพราะนอกจากจะช่วยจัดเรียงฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังดู “มืออาชีพ” ไม่รบกวนภาพลักษณ์ขณะทำงานอีกด้วย
จัดฟันใส
จัดฟันใสเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพราะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใสที่สามารถถอดได้ ซึ่งถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลจากการสแกนฟันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3 มิติ
ข้อดีในการจัดฟันใส :
1. แทบมองไม่เห็นเครื่องมือ
- เครื่องมือจัดฟันใสทำจากพลาสติกใสชนิดพิเศษ ทำให้ สังเกตเห็นยาก เหมือนไม่ได้จัดฟัน เหมาะกับคนที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ากำลังจัดฟันอยู่ เช่น วัยทำงาน หรือบุคคลที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ในการทำงาน
2. ถอดออกได้ตามต้องการ
- สามารถถอดเครื่องมือได้ระหว่าง รับประทานอาหาร แปรงฟัน หรือออกงานสำคัญ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องกังวลเรื่องติดเครื่องมือ
3. ไม่บาดปาก ไม่ระคายเคือง
- ไม่มีเหล็กหรือลวดที่อาจทิ่มกระพุ้งแก้มหรือเหงือก จึง ไม่เสี่ยงเกิดแผลในปาก เหมือนการจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
4. ดูแลความสะอาดง่าย
- เนื่องจากถอดออกมาทำความสะอาดได้ จึงสามารถ แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ ช่วยลดความเสี่ยงฟันผุหรือเหงือกอักเสบระหว่างการจัดฟัน
5. วางแผนการรักษาชัดเจนด้วยระบบคอมพิวเตอร์
- ทันตแพทย์จะใช้เทคโนโลยี 3D สแกนฟันและออกแบบการเคลื่อนฟันทีละขั้นตอน ทำให้ผู้ป่วยสามารถเห็นภาพก่อน-หลัง และเข้าใจแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ
6. ใช้เวลาพบแพทย์น้อยลง
- เนื่องจากไม่ต้องปรับลวดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย ผู้ที่จัดฟันใส ไม่จำเป็นต้องไปคลินิกบ่อย เหมาะกับวัยทำงานที่มีเวลาน้อยหรือเดินทางบ่อย
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงานที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ เช่น พนักงานออฟฟิศระดับผู้บริหาร, เซลส์, พิธีกร หรืออาชีพที่ใช้การพูดเป็นหลัก
ข้อควรระวังในการจัดฟันใส :
✓ ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือ เครื่องมือจัดฟันใสต้องใส่อย่างน้อยวันละ 20–22 ชั่วโมง หากใส่ไม่ครบหรือถอดบ่อย อาจทำให้ผลการรักษาล่าช้า หรือฟันเคลื่อนไม่เป็นไปตามแผน
✓ ไม่เหมาะกับเคสซับซ้อนบางประเภท ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก หรือต้องการแก้ไขโครงสร้างขากรรไกร อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากจัดฟันใส และอาจจำเป็นต้องใช้การจัดฟันแบบติดเครื่องมือร่วมด้วย
✓ เสี่ยงต่อการสูญหายหรือแตกหัก เพราะเครื่องมือสามารถถอดได้ จึงมีความเสี่ยงเรื่อง ลืมวางผิดที่ หรือทำหาย ได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงรับประทานอาหารนอกบ้าน
✓ ต้องถอดเวลาอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีสีหรือความร้อนขณะใส่อุปกรณ์ เพราะอาจทำให้เครื่องมือเปลี่ยนสีหรือเสียรูปทรงได้ (ยกเว้นน้ำเปล่า)
✓ ต้องดูแลความสะอาดเพิ่มขึ้น ผู้ใส่ต้องหมั่นทำความสะอาดทั้งฟันและเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันกลิ่นปาก คราบหินปูน หรือแบคทีเรียสะสมในอุปกรณ์
จัดฟันด้านใน
สำหรับผู้ที่ต้องการติดเครื่องมือจัดฟันแบบถาวรแต่ไม่อยากให้ใครเห็นว่าใส่เหล็ก จัดฟันด้านในคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะติดเครื่องมือไว้ด้าน “หลังฟัน” ทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก
ข้อดีในการจัดฟันด้านใน :
1. มองไม่เห็นเครื่องมือจากด้านหน้า
- จุดเด่นที่สุดของการจัดฟันด้านในคือ ความลับแบบ 100% เพราะเครื่องมือทั้งหมดถูกติดไว้ด้านหลังฟัน ทำให้ ไม่มีใครสังเกตเห็น ต่างจากการจัดฟันเหล็กหรือแบบใสที่อาจยังมองเห็นบ้าง
2. เหมาะกับคนที่ต้องการภาพลักษณ์มืออาชีพ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานในสายอาชีพที่ต้องพบปะผู้คน เช่น พนักงานขาย นักแสดง ผู้บริหาร หรือผู้ที่มีบุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสามารถ จัดฟันได้โดยไม่กระทบต่อความมั่นใจหรือบุคลิก ขณะพูดคุย
3. สามารถแก้ไขฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดฟันด้านในให้ผลลัพธ์ เทียบเท่าการจัดฟันโลหะแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในเคสที่มีฟันซ้อนเกหรือสบฟันผิดปกติ ซึ่งบางครั้งการจัดฟันใสอาจไม่สามารถจัดการได้เต็มที่
4. ลดโอกาสเกิดคราบหรือรอยบนฟันหน้า
- เพราะเครื่องมืออยู่ด้านใน จึง ไม่ทำให้ฟันหน้ามีรอยด่าง จากคราบเครื่องมือ
5. ไม่เสี่ยงบาดกระพุ้งแก้มหรือริมฝีปาก
- ต่างจากการจัดฟันเหล็กที่ติดด้านหน้า ซึ่งอาจเสียดสีกับแก้มหรือริมฝีปาก การจัดฟันด้านในจะสัมผัสกับลิ้น ซึ่งถึงแม้ต้องปรับตัวช่วงแรก แต่โดยรวม ไม่ทำให้เกิดแผลในปาก
6. ใช้ได้กับเคสซับซ้อน
- เครื่องมือจัดฟันด้านในสามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนของฟันได้ดี จึง ใช้ได้ทั้งในเคสง่ายและซับซ้อน เช่น ฟันยื่น ฟันล่างคร่อม หรือปัญหาการสบฟัน
การจัดฟันด้านในจึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใหญ่และคนทำงานสายอาชีพเฉพาะทาง เช่น แอร์โฮสเตส นักแสดง หรือผู้บริหาร
ข้อควรระวังในการจัดฟันด้านใน :
- พูดไม่ชัดในช่วงแรก เพราะเครื่องมือติดอยู่ด้านหลังฟัน จึงใกล้ลิ้นมาก อาจทำให้ พูดลำบากหรือออกเสียงไม่ชัด
- ระคายเคืองลิ้น บริเวณด้านในของฟันและลิ้นจะสัมผัสกับเครื่องมือโดยตรง จึงอาจทำให้เกิด แผลหรือระคายเคือง ได้ในช่วงแรก หรือหากเครื่องมือมีมุมแหลม
- ทำความสะอาดยาก การจัดฟันด้านในทำให้ แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ยากขึ้น กว่าการจัดฟันภายนอก
- ค่าใช้จ่ายสูง การจัดฟันด้านในมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบอื่น ๆ
- หาหมอบ่อยกว่าการจัดฟันใส ต้องเข้าพบทันตแพทย์ทุก 4–6 สัปดาห์ หรือตามที่ทันตแพทย์นัดหมาย
สรุป : ดัดฟันแบบไหนดี?
หากคุณยังลังเลว่า ดัดฟันแบบไหนดี ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการ ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟัน เพื่อวางแผนที่เหมาะสมกับปัญหาฟันและความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุด เพราะรอยยิ้มที่มั่นใจพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูมืออาชีพ คืออาวุธลับของคนวัยทำงานแบบคุณ